“จะซื้อมัลติมิเตอร์ซักเครื่องแต่สับสนว่า Digit กับ Count มันต่างกันอย่างไร และ ต้องมี Digit หรือ Count แค่ไหนจึงจะเรียกว่าดีกว่า”

เชื่อว่าทุกท่านที่กำลังอ่าน Blog นี้อยู่ ต่างก็มีคำถามเดียวกันว่า

“จะซื้อมัลติมิเตอร์ซักเครื่อง แต่สับสนว่า Digit กับ Count มันต่างกันอย่างไร และ ต้องมี Digit หรือ Count แค่ไหนจึงจะเรียกว่าดีกว่า”

ฉะนั้นเราจะมาอธิบายให้ทุกท่านได้รู้และนำไปใช้พิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจซื้อมัลติมิเตอร์ไม่ว่าจะราคาต่ำหรือสูงแค่ไหนก็สามารถที่จะใช้องค์ความรู้นี้ไปใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่าใน Digital Multimeter หรือแม้กระทั่งเครื่องมือวัดประเภทต่างๆ ล้วนแล้วจะต้องมีความสามารถที่จะแสดงผลการวัดให้ครอบคลุมกับทุกย่านวัด(Range) และ ฟังชั่น (Function) ที่สามารถเลือกใช้งานได้บนเครื่องมือวัดนั้นๆ ไม่ใช่เพียงแค่ย่านวัดใดย่านวัดหนึ่ง หรือ ฟังชั่นใดฟังชั่นหนึ่ง ฉะนั้นเรามาทำความรู้จักคำว่า Digit และ Count กันเสียก่อนว่านิยามจริงๆของทั้ง 2 คำนี้คืออะไร

1. Digit (หลัก) คือจำนวนหลักที่นับได้บนหน้าจอของเครื่องมือวัด ณ ที่นี้คือมัลติเตอร์เช่น Digital Multimeter – UNI-T model : UT8805E ตามรูปด้านล่างนี้

Digit - Digital Multimeter

จะเห็นได้ว่า เราเห็นจำนวนหลักที่แสดงอยู่บนจอของเครื่องอยู่ทั้งหมด 6 หลัก (ไม่รวมจุดทศนิยม) ซึ่งแสดงผลเต็มหน้าจอแล้ว แต่ถว่าส่วนใหญ่เราจะไม่ค่อยเห็นมัลติมิเตอร์ที่มีจำนวนหลักที่ระบุไว้ที่หน้าเครื่องหรือในสเปคว่าเป็นจำนวนเต็ม 3 , 4 , 5 …… , 8 Digits แต่มักจะเห็นเป็น 3 ½ , 4 ½ , 5 ½ , 6 ½ , 7 ½ , 8 ½ Digits กันมากกว่า และทีนี้บางคนอาจจะสงสัยว่าแล้ว “ ½ ” มันหมายความว่าอะไร หรือบางทีอาจจะไม่ใช่แค่ “ ½ “ อาจเป็น 3/4 , 5/6 และอื่นๆ

เศษส่วนที่ถูกเขียนไว้ด้านหลังจำนวนเต็มบ่งบอกถึงความสามารถในการแสดงผลหรืออาจเรียกได้ว่าเป็น Resolution ของ Digital Multimeter เครื่องนั้นๆด้วยตัวอย่างเช่น

Digit - Digital Multimeter

Resolution : 5 ½

โดย 5 คือจำนวนหลัก (Digit) ที่สามารถแสดงผลได้ตั้งแต่ 0-9 โดย ณ ที่นี้ Digit ที่ 1 – 5สามารถแสดงผลได้ตั้งแต่เลข 0 – 9

และ ½ มีความหมายว่า (Largest Value of First Digit) เศษ 1 คือเลขที่สามารถแสดงผลได้สูงสุด ณ ที่นี้ Digit ที่ 6 สามารถแสดงผลได้เพียง 0 และ 1 เท่านั้น

และ ส่วน 2 คือ (Amount of Possibilities) ค่าที่คาดว่าควรจะแสดง ในตัวอย่างนี้เราตั้งใจวัดที่ 0V และ 2V แต่ถว่าหลักที่ 6 สามารถแสดงผลได้แค่ 0-1 แสดงว่า Digital Multimeter เครื่องนี้สามารถแสดงผลได้ที่ 0.00000 – 1.99999 V แต่ “ไม่สามารถแสดงถึง 2.00000 V ได้”

Digit

6

5432

1

0 .

0000

0 V

To

1 .

9999

9 V

เห็นไหมครับว่าในเรื่องของ Digit ก็มีรายละเอียดเพียงเท่านี้ งั้นเรามาดูส่วนต่อไปนั้นก็คือ

2. Count หรือ “จำนวนค่าที่เครื่องมือวัดสามารถที่จะแสดงผลได้”

โดยเราสามารถคำนวนหาค่า Count ได้จากสูตรคำนวนและขั้นตอนต่อไปนี้

2.1 จากข้อที่ 1 ในเรื่องของ Digit เราทราบแล้วว่า หลักหน้าสุดหรือ(ซ้ายมือสุดของจอ) สามารถแสดงผลได้เพียง 0 และ 1 และหลักอื่นๆสามารถแสดงผลได้เต็ม 0-9 ฉะนั้นหากไม่สนใจจุดทศนิยมจะพบว่า Digital Multimeter เครื่องนี้สามารถแสดงผลได้ตั้งแต่ค่า 000000 – 199999

2.2 Count จะเท่ากับ

Count = 199999+1 = 200000 Counts

นั้นเองซึ่งตรงกับ Nameplate หน้าเครื่องเลย

Uni-T

สรุปได้ว่า ไม่ว่าจะพูดใน Term ของ Digit หรือ Count ต่างก็คือเรื่องเดียวกันก็คือ ความละเอียด (Resolution) ฉะนั้น จำนวน Digit ที่มากขึ้น จะมาพร้อมกับจำนวน Count ที่มากขึ้นตาม เป็นผลให้ความละเอียดมีค่าที่สูงขึ้นตามเช่นกัน และ Blog นี้เราก็รู้จักคำว่า Digit และ Count รวมถึงความแตกต่างของทั้ง 2 ค่านี้ หลังจากนี้เราก็สามารถที่จะนำความรู้นี้ไปตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องมือวัดไฟฟ้ากันได้แล้ว

สามารถดูตัวอย่างเพิ่มเติมได้จากตารางด้านล่างนี้ ซึ่งเป็นตัวอย่างบางส่วนเท่านั้นซึ่งในความเป็นจริงเป็นได้หลากหลายค่า